ข้อดีของโรงแรม Ole London ที่เราพักอย่างหนึ่งคือสามารถเดินไปวัดอาม่า และเซนาโดสแควร์ได้โดยไม่เหนื่อยนักครับ หัวข้อนี้จะบอกวิธีเดินทางไปเซนาโดสแควร์นะครับ ซึ่งก็ใช้วิธีการเดินด้วยสองเท้าของเราเช่นเคยครับ (จริงๆแล้วนั่งรถเมล์สาย 10 ก็ได้ครับจากหน้าโรงแรมมาเก๊ามาสเตอร์ เยื้องๆกับปากซอยของโรงแรม Ole London ถ้ายังนึกภาพไม่ออกให้กลับไปอ่านหัวข้อแรกนะครับ วิธีเดินทางไปโรงแรม Ole London แต่ถ้านั่งรถเมล์ก็ครั้งละ 3.2 MOP$ เตรียมไปให้ครบนะครับ ก่อนขึ้น ไม่มีการทอน หรือจะใช้เงินฮ่องกงจ่ายก็ได้ครับ) ออกจากปากซอบโรงแรมก็เลี้ยวขวาตรงปากซอยทางเข้าโรงแรม ตรงตู้ไปรษณีย์ใหญ่สีแดงครับ เดินไปเรื่อยๆ ประมาณ 300 เมตร จะเจอแยกที่มีป้ายเขียนว่า Centro ซึ่งหมายถึงเข้าไปในใจกลางเมือง แล้วก็เลี้ยวขวาเข้าไปครับ เดินต่อไปอีกประมาณ 400 เมตร จะเจอ เซนาโดสแควร์ อยู่ด้านซ้ายมือ ก็ข้ามถนนเดินเข้าไปเลยครับ (มีไฟแดงให้คนข้ามครับ)
เซนาโดสแควร์ (Senado Square) ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญและจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวของมาเก๊าครับ ประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญในเขตที่ได้รับการขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก เป็นย่านการค้า ที่พัก ใช้เป็นสถานที่จัดงานต่างๆ อาคารที่ตั้งเรียงรายรอบๆจัตุรัสสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19-20 พื้นปูด้วยหินสีดำสลับขาวเป็นลายคลื่น โดยมีบ่อน้ำพุซึ่งมีลูกโลกโลหะตั้งอยู่ตรงกลางบ่อ เป็นความหมายว่าที่นี่คือรอยอดีตแห่งอารยธรรมตะวันตกกับตะวันออกที่หล่อหลอมรวมกันได้อย่างลงตัว
โบสถ์ที่เห็นสีเหลืองด้านบนนี้ ชื่อโบสถ์เซนต์ โดมินิค (St. Dominic's Church) สร้างขึ้นโดยบาทหลวงนิกายดอมินิกัน ชาวสเปน 3 ท่าน ที่อพยพมาจาก อะคาปุลโกประเทศเม็กซิโก ในปี ค.ศ.1587 นับเป็นโบสถ์เก่าแก่ในยุคแรกๆในประเทศจีน เดิมใช้แผ่นไม้กระดานในการก่อสร้าง ก่อนจะปรับปรุงให้เป็นอาคารคอนกรีตในรูปแบบสถาปัตยกรรมบารอคโคโลเนียล ในละแวกเดียวกันนี้ก็มีโบสถ์อีกหลายแห่ง แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายเยอะ มัวแต่เดิน หาโบสถ์เซนต์ปอลอยู่ แต่ไม่ต้องกลัวครับ มาถึงเซนาโดสแควร์แล้ว มีป้ายบอกทุกแยกครับ หาไม่ยากเลย (ระหว่างทางก็จะเจอร้าน เซเว่น เจอร้านขาย ขนมทาร์ตไข่ จะซื้อเดินกินไปพลางๆก็ได้นะครับ ถ้าเป็นกล่องใหญ่ เขาจะขายกล่องละ 40 MOP$ ได้ 12 ชิ้นครับ ถ้าซื้อเป็นชิ้นก็ชิ้นละ 3.5 MOP$ ครับ คิดเป็นเงินไทยก็แพงนะ อันหนึ่งตั้ง 16 บาท โดยประมาณ ชิ้นเล็กนิดเดียวเอง แต่ไม่เป็นไรครับ ครั้งหนึ่งในชีวิต หรือไม่ก็กลับมากินที่ KFC บ้านเราก็ได้ครับ 555+++
ถึงแล้วครับซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล (Ruins of St. Paul's Church) คนเยอะจริงๆ เดินกันขาลากแล้ว ขอพักเหนื่อยแป๊บหนึ่งนะครับ ด้านหลังที่พวกเรานั่งอยู่เป็น จัตุรัสมีชื่อเรียกว่า คอมปานีออฟจีซัส (Company of Jesus Square) มีสิ่งที่น่าสนใจคือ รูปปั้นทองสำริดหญิงสาวกำลังส่งดอกบัวให้กับชายหนุ่ม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความปรารถนาดีระหว่างโปรตุเกสและประเทศจีน ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงที่โปรตุเกสส่งมอบคืนมาเก๊าสู่แผ่นดินจีน
เตรียมตัวขึ้นไปข้างบนกันเลยนะครับ ที่จริงก็ไม่มีอะไรครับ ข้างหลังก็เป็นพื้นที่โล่งๆ แต่เราสามารถเดินขึ้นบันไดไปชมวิวข้างบนได้ครับ (บันไดอยู่ด้านหลังครับ) แต่เวลาเราขึ้นไป พื้นที่เรายืนอยู่จะมองเห็นข้างล่างครับ ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนเป็นโรคกลัวความสูงครับ
โบสถ์เซต์ปอลสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1602 - 1604 ประกอบไปด้วยส่วนหน้าของโบสถ์มาแตเดอี วิทยาลัยเซนต์ปอล และเมาท์ฟอร์เทรส เป็นกล่มอาคารที่สร้างขึ้นโดยพวกเยซูอิต มีลักษณะเป็นอะโครโปลิสของมาเก๊า ถูกไฟไหม้ทำลายในปี ค.ศ. 1835 การขุดค้นทางโบราณคดี ของซากปรักหักพังแห่งวิทยาลัยเซนต์ปอลคือร่องรอยหลักฐานมหาวิทยาลัยแบบตะวันตกแห่งแรกของตะวันออกไกล ปัจจุบันยังคงเหลือซุ้มประตูด้านหน้าเอาไว้ เป็นสัญลักษณ์ของมาเก๊า ครับผม
ชมโบสถ์เซนต์ปอลแล้วถ้าปวดฉี่ก็มีห้องน้ำบริการฟรี ด้านข้างนะครับ ถ้าหันหน้าเข้าโบส์ก็จะอยู่ด้านขวามือ อีกฟากถนนนะครับ หลังจากชมโบสถ์เซนต์ปอลเสร็จแล้ว เราก็มีแผนจะไปชมเจ้าแม่กวนอิมปางพระแม่มาเรีย และชมแสงสียามค่ำคืนของมาเก๊ากันครับ
อ่านบทความก่อนหน้า เที่ยววัดอาม่ากันดีกว่าครับ
อ่านบทความก่อนหน้า เที่ยววัดอาม่ากันดีกว่าครับ
ขออนุญาตฝากลิงค์นะคะ
ตอบลบรูปแบบการเล่นคาสิโนผ่านทางอินเตอร์เน็ต
ฝาก-ถอน ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ที่นี่เลยค่ะ
https://www.111player.com
ไม่อนุญาติให้ฝากลิงค์คาสิโนน่ะครับ
ลบไม่อนุญาติให้ฝากลิค์คาสิโนน่ะครับ
ตอบลบ